อุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลคลองสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริเวณตอนใต้ของประเทศไทย คือดินแดนศูนย์กลางของขุนป่าแห่งป่าฝน เป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญของภาคใต้
ประวัติความเป็นมา
เขาสก แต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า บ้านศก แต่ก่อนหน้านั้นเรียว่า บ้านศพ ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าบ้านศพนั้น คนเก่าแก่เล่าว่าเมื่อสมัยก่อนเป็นหมู่บ้าน อยู่กลางป่าไม่สามารถติดต่อกับที่ไหนได้เลย เมื่อในสมัยรัชกาลที่ 2 พม่าได้ยกทัพมาตีตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า ฉลาง (ภูเก็ต) ชาวบ้านจึงหนีเข้าป่าขึ้นเขานมสาวเขาสก แล้วมาตั้งบ้านเรือนเพื่อทำมาหากินปลูกพืชหาป่าล่าสัตว์ แต่ต่อมาได้เกิดโรระบาด ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บ้านศกจึงกลายเป็นบ้านร้าง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2504 บริษัทมหาไทยได้ทำการตัดถนนจาก อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยังอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ผ่านบ้านศกและเขาสก โดยคนงานนับพันคนได้ทำการสร้างบ้านพักที่เชิงเขาพันธุรัตน์และล่าสัตว์โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ประกอบกับการเดินทางไปมาที่มีความสะดวก ชาวบ้านจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์กับสงขลา จึงเริ่มพากันมาจับจองที่ดิน ทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่า ขอสัมปทานขุดแร่ และสัมปทานป่าไม้ ส่งผลให้ป่าไม้กับสัตว์ป่าลดลงอย่างมาก
การจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเขาสก
ในปี พ.ศ. 2519 ได้มีการสำรวจสภาพภูมิประเทศกับสภาพป่าทางเครื่องบิน พบว่าป่าโครงการไม้กระยาเลย คลองแสง คลองหยี เกือบทั้งหมดเป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดยเฉพาะป่าบริเวณเขาสกเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์ มีน้ำตกที่งดงามหลายแห่ง ซึ่งเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำตาปี มีสัตว์ป่าชุกชุม และยังไม่เคยผ่านการทำไม้มาก่อน จึงน่าจะกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อจะได้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย และยังเป็นประโยชน์ในการท่องเที่ยว รวมถึงมีประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อม
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้ทำการนำเสนอต่อคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ มีมติเห็นชอบ ให้ป่าบริเวณคลองหยีและคลองพระแสง ในท้องที่ ตำบลไกรสร ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน และ ตำบลคลองศก ตำบลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2523 และในปัจจุบันได้มีการผนวกพื้นที่ อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนรัชชประภา ซึ่งอยู่ในท้องที่ ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ซึ่งนับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 22 ของประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติเขาสก มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง
เส้นทางที่ 1 น้ำตกบางหัวแรด-น้ำตกโตนกลอย
เส้นทางนี้จะเริ่มเดินจากที่ทำการอุทยานฯ และข้ามคลองบางเลนไปยังน้ำตกบางหัวแรด ซึ่งเป็นน้ำตกขนาด 2 ชั้น ไม่สูงมาก แต่มีความสวยงามและน่าลงเล่นน้ำไม่น้อย โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 3 กิโลเมตร จากน้ำตกบางหัวแรดก็ให้เดินเลียบไปตามคลองสก ประมาณ 120 เมตร จะเจอกับน้ำตกวิ่งหิน เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางเดินเท้าเลียบคลองสกประมาณ 40 เมตรก็จะผ่านวังยาว ซึ่งเป็นวังน้ำลึก โดยให้เดินขึ้นภูเขาเตี้ยๆ ข้ามคลองสก ไปตามทางแยกซ้ายประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะเจอกับน้ำตกธารสวรรค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นแนวโค้งคล้ายแนวรุ้งกินน้ำ มีความสวยงามมาก เมื่อออกจากน้ำตกแห่งนี้ก็ให้เดินเลียบคลองสกไปอีก 2 กิโลเมตร จะเจอกันต้นน้ำ ที่มีลักษณะเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน โดยแต่เดิมเป็นภูเขา แต่ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นลักษณะดังกล่าว โดยตรงจุดนี้ก็เป็นสถานที่ลอยเถ้าอังคารของท่านพุทธทาส จากนั้นก็ให้เดินเท้าปีนเขาไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกโตนกลอย ซึ่งเป็นน้ำตกชั้นเดียว มีน้ำไหลแรงตลอดปี โดยเมื่อรวมระยะทางทั้งหมดแล้ว มีความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร เส้นทางเดินง่ายไม่ลำบาก นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินได้เอง
เส้นทางที่ 2 น้ำตกสิบเอ็ดชั้น
สำหรับเส้นทางนี้จะมีความลำบากหน่อย คือจะต้องปีนภูเขาสู่น้ำตกสิบเอ็ดชั้น และเส้นทางในการเดินมีความชันพอสมควร แต่ก็สามารถเดินเองได้โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ซึ่งมีระยะทางในการเดินทั้งหมดประมาณ 4 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นวงกลม
สำหรับเส้นทางนี้จะใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางที่ 2 นั่นเอง แต่จะเดินแบบเป็นเส้นวงกลม และมีทางเดินเป็นขั้นบันได ซึ่งเดินง่าย โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเหมือนกัน ซึ่งตามเส้นทางก็จะมีป้ายสื่อความหมายอยู่ และมีระยะทางในการเดินทั้งหมดรวม 2 กิโลเมตร
สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ
ในเขาสก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดดเด่นและเป็นที่นิยมดังนี้
วังยาว เป็นจุดรวมของน้ำตกที่สวยงาม ได้แก่ น้ำตกบางหัวแรด เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มี 2 ชั้น โดยชั้นแรกจะไหลจากบางหัวแรดลงสู่คลองสก ส่วนชั้น 2 อยู่ในคลองสก และน้ำตกวิ่งหิน ซึ่งมีน้ำไหลลงมาบรรจบอย่างสวยงาม โดยเหนือขึ้นไปจากน้ำตกวิ่งหินประมาณ 40 เมตร ก็จะมีวังสำหรับเล่นน้ำเรียกว่า วังยาว เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำกันมากที่สุด และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น
ตั้งน้ำ เป็นภูเขาที่ถูกน้ำเซาะจนมีลักษณะเป็นหน้าผาหันเข้าหากัน ส่วนเบื้องล่างจะมีคลองสกไหลผ่าน โดยสถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 6 กิโลเมตร แต่ต้องเดินทางโดยทางเท้าเข้าไปเท่านั้น
น้ำตกโตนกลอย เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่เกิดจากคลองสก มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อนบนชั้นน้ำตกได้ และด้วยอากาศที่เย็นสบายจึงเหมาะกับการผ่อนคลายที่สุด โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 9 กิโลเมตร
น้ำตกโตนไทร อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 11 กิโลเมตร โดยเป็นน้ำตกที่อยู่ในลำคลองสก มีขนาดไม่สูงนัก
น้ำตกธารสวรรค์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 9 กิโลเมตร โดยเป็นน้ำตกที่มีความงดงามมาก ซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาชันและพุ่งโค้งคล้ายกัรุ้งกินน้ำ
น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นรูปขั้นบันได 11 ชั้น โดยน้ำตกจะไหลลงมาเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันตามร่องหน้าผาอย่างสวยงาม บริเวณชั้นล่างสุดจะมีแอ่งน้ำสำหรับลงเล่นน้ำได้ โดยอยู่ห่างจากที่ทำการ 4 กิโลเมตร
น้ำตกแม่ยาย เป็นน้ำตกชั้นเดียว รถยนต์เข้าถึงได้ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 4.5 กิโลเมตร